วันอังคารที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2554

ที่ดิน สวยมาก 14 ไร่ 49 ตารางวา
สระน้ำ กว้าง 2.5 ไร่ ลึก 12-15 เมตร เหมาะที่อยู่อาศัย บ้านสวน

สภาพที่ดิน อุดมสมบรูณ์ เหมาะปลูกพืชทุกชนิด ล้มลุก และไม้ยืนต้น


ทางเข้าที่ดิน 14 - 0 - 94 ไร่ ห่างจากถนนลาดยาง เพียง 150 ม.

สนใจ ติดต่อ 085-0240417


Get Adobe Flash player

วันพฤหัสบดีที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วงเทียบเยน จากกระแสคาดรัฐบาลญี่ปุ่นไม่แทรกแซงเงินเยน

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 19 สิงหาคม 2553 07:51:17 น.

ค่าเงิน ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 ส.ค.) เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าทางการญี่ปุ่นจะไม่เข้าแทรกแซงตลาดเพื่อสกัด กั้นการแข็งค่าของเงินเยน ขณะที่ค่าเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากนักลงทุนเทขายหลังจากยูโรไม่สามารถไต่ขึ้นเหนือแนวต้านทางจิตวิทยา ได้

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.13% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 85.420 เยน จากระดับของวันอังคาร (17 ส.ค.) ที่ 85.530 เยน และอ่อนลง 0.08% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0419 ฟรังค์ จากระดับ 1.0427 ฟรังค์

ค่าเงินยูโรดิ่งลง 0.16% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2858 ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.2879 ดอลลาร์ และเงินปอนด์ดีดขึ้น 0.07% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ที่ระดับ 1.5598 ดอลลาร์ จากระดับ 1.5587 ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.78% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8978 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 0.9049 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.25% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7138 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7120 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับเงินเยน เนื่องจากนักลงทุนคาดว่า ทางการญี่ปุ่นจะไม่เข้าแทรกแซงตลาดเพื่อสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินเยน อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ในแวดวงตลาดปริวรรตเงินตราของญี่ปุ่นคาดว่า นายนาโอโตะ คัง รมว.คลังญี่ปุ่น และนายมาซาอากิ ชิรากาวะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) อาจประชุมร่วมกันในสัปดาห์หน้า เพื่อหาทางสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินเยน หลังจากเงินเยนพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 ปีในสัปดาห์ที่แล้ว

ส่วนค่าเงินยูโรร่วงลงเนื่องจากนักลงทุนเทขายหลังจากยูโรไม่สามารถไต่ ขึ้นเหนือแนวต้านทางจิตวิทยาได้ โดยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ค่าเงินยูโรได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่ารัฐบาลสเปนประสบความสำเร็จในการประมูล ขายพันธบัตรอายุ 12 เดือน มูลค่า 4.34 พันล้านยูโร ด้วยอัตราผลตอบแทน 1.86% และยอดสั่งจองพันธบัตรมีจำนวนสูงกว่าพันธบัตรที่นำออกจำหน่ายถึง 2.47 เท่า รวมทั้งข่าวที่ว่า รัฐบาลไอร์แลนด์ได้นำพันธบัตรออกจำหน่ายมูลค่า 1.5 พันล้านยูโร ซึ่งพันธบัตรชุดนี้จะครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2557 และ 2563

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐมูลค่า 2.551 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการเข้าซื้อครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนต.ค.2552 และมีเป้าหมายที่จะป้องกันไม่ให้เม็ดเงินไหลออกจากระบบการเงินของสหรัฐ โดยเฟดดำเนินการอย่างสอดคล้องกับที่ได้ให้คำมั่นสัญญาไว้ในที่ประชุมเมื่อ วันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมาว่าจะนำรายได้จากตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยรองรับ (MBS) ไปซื้อพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาล ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวถือเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งสำคัญ จากเดิมที่คณะกรรมการเฟดวางแผนที่จะใช้ยุทธศาสตร์ถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แบบค่อยเป็นค่อยไป

นักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค กล่าวว่า เฟดพยายามรักษาระดับเงินทุนในพอร์ทฟอลิโอของเฟด หรือ System Open Market Account (SOMA) ให้อยู่ที่ระดับ 2.054 ล้านล้านดอลลาร์ ควบคู่ไปกับการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว และคาดว่าเฟดอาจจะเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลอีก 2.84 แสนล้านดอลลาร์ในปีหน้า หรือมากกว่าที่จีนและญี่ปุ่นเข้าซื้อพันธบัตรสหรัฐรวมกันในช่วงเวลาที่สิ้น สุด ณ เดือนพ.ค.ปีนี้

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนก.ค. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพฤหัสบดี

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรพุ่งเทียบดอลล์ ขานรับข่าวประมูลพันธบัตรสเปน-ไอร์แลนด์
ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 18 สิงหาคม 2553 07:42:14 น.

ค่าเงินยูโร ดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (17 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป หลังจากมีรายงานว่ารัฐบาลสเปนและไอร์แลนด์ประสบความสำเร็จในการประมูล พันธบัตร ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนและสกุลเงินอื่นๆ หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค.

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.42% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2877 ดอลลาร์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.2823 ดอลลาร์ ส่วนเงินปอนด์ร่วงลง 0.57% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5572 ดอลลาร์ จากระดับ 1.5662 ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้น 0.19% เมื่อเทียบกับเงินเยนระดับ 85.520 เยน จากระดับของวันจันทร์ที่ 85.360 เยน และดีดตัวขึ้น 0.42% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 1.0434 ฟรังค์ จากระดับ 1.0390 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.78% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9050 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 0.8980 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.65% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7121 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7075 ดอลลาร์สหรัฐ

นักลงทุนเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป หลังจากมีรายงานว่ารัฐบาลไอร์แลนด์และสเปนประสบความสำเร็จในการประมูล พันธบัตร

อย่างไรก็ตาม ค่าเงินยูโรถูกกดดันในระหว่างวัน หลังจากสถาบันวิจัยเศรษฐกิจยุโรป (ZEW) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนเยอรมนีประจำเดือนส.ค. ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 16 เดือน เนื่องจากความกังวลที่ว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกอาจจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเยอรมนี ที่ต้องพึ่งพาการส่งเป็นหลัก

ค่าเงินดอลลาร์ดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนและสกุลเงินอื่นๆ หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐ รวมถึงผลผลิตในโรงงาน เหมืองแร่ และผลผลิตด้านสาธารณูปโภค ขยายตัวขึ้น 1.0% ในเดือนก.ค. ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าภาคการผลิตยังคงเป็นปัจจัยหลักในการหนุนเศรษฐกิจสหรัฐ ให้ฟื้นตัวขึ้น

ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการสร้างบ้านใหม่เดือนก.ค.ขยายตัวขึ้น 1.7% สู่ระดับ 546,000 ยูนิตต่อปี โดยตัวเลขการสร้างบ้านในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ ขยายตัวขึ้น 30.5% ขณะที่เขตมิดเวสต์ขยายตัวขึ้น 10.7% นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (พีพีไอ) เดือนก.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 0.2% ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้

สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นดัชนีหลักที่ใช้วัดภาวะเงินเฟ้อ ปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน มาอยู่ที่ 3.1% ในเดือนก.ค. จากระดับ 3.2% ในเดือนมิ.ย. แต่ยังสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อเป้าหมายที่ระดับ 2% ของธนาคารกลางอังกฤษ

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนก.ค.

วันจันทร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์สหรัฐแข็งค่า หลังยอดค้าปลีกเพิ่มน้อยกว่าคาด

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์สหรัฐแข็งค่า หลังยอดค้าปลีกเพิ่มน้อยกว่าคาด
ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 14 สิงหาคม 2553 09:49:08 น.

เงินดอลลาร์ สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 ส.ค.) เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจกำลังสะดุด ได้ช่วยกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าถือครองสกุลเงินดอลลาร์ที่มีความเสี่ยงน้อย กว่า

เงินยูโรอ่อนค่าลง 0.55% แตะ 1.2753 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.2823 ดอลลาร์ และอ่อนค่าลง 0.13% แตะ 110.05 เยน จากระดับ 110.19 เยน ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.11% แตะที่ 1.5584 ดอลลาร์ จากระดับ 1.5567 ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า 0.43% แตะ 86.300 เยน จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 85.930 เยน และเพิ่มขึ้น 0.19% แตะ 1.0522 ฟรังค์สวิส จากระดับ 1.0502 ฟรังค์สวิส แต่ลดลง 0.15% แตะ 1.0405 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.0421 ในวันก่อน

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่า 0.41% แตะที่ 0.8922 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 0.8959 ดอลลาร์สหรัฐ และเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนค่าลง 0.48% แตะที่ 0.7052 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7086 เมื่อวันก่อน

เมื่อวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.ค. ปรับตัวขึ้น 0.4% หลังจากลดลงสองเดือนติดต่อกัน แต่ยังน้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ว่าจะดีดตัวขึ้น 0.5% ซึ่งการปรับตัวขึ้นของยอดค้าปลีกเมื่อเดือนที่แล้วนั้น เป็นผลมาจากยอดขายยานยนต์และน้ำมันที่สูงขึ้น ขณะที่ยอดขายสินค้าอื่นๆเกือบทุกประเภท ตั้งแต่เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม ไปจนถึงวัสดุก่อสร้าง ยังซบเซา

ขณะที่ รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือน ส.ค.เพิ่มขึ้นแตะ 69.6 จากระดับ 67.8 ในเดือนก.ค. ซึ่งมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 68.8 แต่ก็ยังต่ำกว่าตัวเลข 76.0 ในเดือนมิ.ย.

นักวิเคราะห์มองว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่ปรับตัวขึ้นนั้น ยังไม่มากพอที่จะช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นของนักลงทุน

วันพฤหัสบดีที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2553

วิดิโอสอนการใช้ MetaTrader 4

วิดิโอสอนการใช้ MetaTrader 4

Present By ForexStrategySecrets

Part 1: Overview




Part 2: Changing Colors




Part 3: Opening a Demo Account




Part 4: Tips and Trick 1




Part 5: Tips and Trick 2




Part 6: Trailing Stop




Part 7: Templates




Part 8: Open and Close Trades




Part 9: Alerts




Part 10: Market Watch




Part 11: Navigator



Part 12: Terminal




Part 13: Indicator


สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จาก YouTube อีกเพียบครับ คลิกที่นี่

วันจันทร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2553

Fxpro สุดยอดโบรกเกอร์ร้อนแรงมากที่สุด NOW...!



FxPro: a leading and award-winning online forex broker

* Best Global Trading Platform 2010 by World Finance Magazine
* Fastest Growing Global Forex Broker 2010 by World Finance Magazine
* Best Forex Broker, Europe 2009 by World Finance Magazine
* Best Forex Broker 2009 by European CEO Magazine





AvaFx สุดยอดความคุ้มค่า ลงทุน $100 แถมฟรี $50
ดูรายละเอียด คลิกที่นี่

วันเสาร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก 30 ก.ค.: ดอลล์ร่วงหลังจีดีพีสหรัฐโตน้อยกว่าคาด-IMF เตือนศก.สหรัฐเปราะบาง

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก 30 ก.ค.: ดอลล์ร่วงหลังจีดีพีสหรัฐโตน้อยกว่าคาด-IMF เตือนศก.สหรัฐเปราะบาง
ค่า เงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือนเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 ก.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่าเศรษฐกิจไตรมาส 2 ขยายตัวน้อยกว่าคาด และหลังจากผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์แสดงความกังวลว่า สหรัฐอาจเผชิญกับภาวะเงินฝืดแบบเดียวกับญี่ปุ่น นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังถูกกดดันหลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เตือนว่าระบบการเงินของสหรัฐอยู่ในภาวะที่เปราะบางมาก

ค่า เงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.39% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 86.420 เยน จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 86.760 เยน และอ่อนตัวลง 0.07% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 1.0403 ฟรังค์ จากระดับ 1.0410 ฟรังค์

ค่า เงินยูโรอ่อนตัวลง 0.19% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ 1.3052 ดอลลาร์ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.3077 ดอลลาร์ และค่าเงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.61% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ 1.5704 ดอลลาร์ จากระดับ 1.5609 ดอลลาร์

ค่า เงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.57% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ 0.9054 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 0.9003 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.32% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ 0.7259 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7236 ดอลลาร์สหรัฐ

นัก ลงทุนเทขายดอลลาร์สหรัฐหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ขยายตัวเพียง 2.4% ต่อปี ซึ่งชะลอตัวลงเมื่อทียบกับจีดีพีไตรมาสแรกที่ผ่านการทบครั้งใหม่ว่าขยายตัว 3.7% และน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยายตัวในอัตรา 2.5% ต่อปี

ดอลลาร์ สหรัฐผันผวนมากขึ้นเมื่อไอเอ็มเอฟเตือนว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังต้องเผชิญกับความ เสี่ยงที่จะชะลอตัวลง โดยเฉพาะความเสี่ยงที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะถดถอยรุนแรงและลุกลามไปยังภาค ส่วนอื่นๆ หากสถานการณ์การเงินในต่างประเทศเข้าขั้นวิกฤต

นอก จากนี้ผลการทดสอบภาวะวิกฤต (stress test) ของธนาคารสหรัฐ ซึ่งจัดทำโดยไอเอ็มเอฟยังบ่งชี้ว่า ระบบการเงินของสหรัฐยังอยู่ในภาวะเปราะบาง และธนาคารพาณิชย์ที่มีสถานะการเงินอ่อนแอจนส่งผลให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจนั้น จำเป็นต้องระดมเงินทุนเพิ่มถึง 7.6 หมื่นล้านดอลลาร์

นัก ลงทุนส่วนใหญ่ยังคงวิตกกังวลต่อการแสดงความคิดเห็นของนายเจมส์ บุลลาร์ด ผู้ว่าการเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ ที่ว่า สหรัฐอาจเผชิญกับภาวะเงินฝืดแบบเดียวกับญี่ปุ่นหากเศรษฐกิจอ่อนแอลง ซึ่งภาวะเงินฝืดจะลุกลามจนทำให้ราคาสินค้า มูลค่าที่อยู่อาศัย มูลค่าหุ้น และอัตราค่าแรงหดตัวลงด้วย ทั้งนี้ นายบุลลาร์ดแนะนำให้คณะกรรมการเฟดทบทวนโครงการซื้อพันธบัตรของรัฐบาลหาก เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญวิกฤตการณ์อันเนื่องมาจากภาวะเงินฝืด

มู ดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส กล่าวว่า สหรัฐจำเป็นต้องประกาศใช้มาตรการที่ชัดเจนในการลดยอดขาดดุลงบประมาณ และเตือนว่า ตัวเลขหนี้สาธารณะที่อยู่ในระดับสูงอาจส่งผลกระทบต่ออันดับความน่าเชื่อถือ ที่ Aaa ของสหรัฐในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

วันศุกร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

Daily Video Recap for 28 Jul: Upbeat Euro-Zone, UK Data Countered By Weak US Reports



เป็น trader ยากมั้ย?

มีคำกล่าวแบบติดตลกของ นักแสดงตลกชาวอเมริกันคนหนึ่ง ผมจำชื่อไม่ได้แล้ว เขากล่าวว่า "I am not as concerned about the return on my money as I am about the return of my money" ซึ่งบ่งบอกให้เราทราบถึงธรรมชาติของมนุษย์ว่าส่วนใหญ่ไม่ชอบเสี่ยง (Most people are naturally risk averse) แต่ทว่าในใจก็ยังแอบอยากได้กำไรเยอะๆ จากการเก็งกำไร ไม่ว่าจะเป็นทองคำ, ที่ดิน,หุ้น, ผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆ แล้วก็ไปอิจฉาบรรดานักเก็งกำไรที่ได้กำไรเยอะๆ ซึ่งผมก็อยากจะบอกว่านักเก็งกำไรที่เขาประสบความสำเร็จได้เงินมากๆ เหล่านั้นก็เปรียบเสมือนเขาได้รับการ “ว่าจ้าง” มาให้รับความเสี่ยงต่างๆ จากผู้คนรอบข้างที่ไม่อยากเสี่ยงนี่แหละ ยังมี traders อีกมากมายที่ล้มเหลวและถอดใจหรือไม่ก็หายสาบสูญ (ทั้งโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ) แต่เราไม่เคยได้ยินเพียงเพราะว่าผู้คนโดยทั่วไปมักจะชอบเล่าลือถึงเรื่อง ความสำเร็จเท่านั้น

มีหลุมพรางทางจิตวิทยา 6 อย่างที่ trader จะต้องเอาชนะก้าวข้ามไปให้ได้ ผมจะขอว่าไปทีละอย่างเลยนะครับ

1. อย่าพึ่งพาคนอื่นมากจนเกินความจำเป็น ท่องคติไทยที่ว่าตนเป็นที่พึ่งแห่งตนให้ขึ้นใจ จะมีผู้คนมากมายทั้งปรารถนาดี/ไม่ดี มาให้ข้อคิด คำแนะนำอย่างมากต่อท่าน เช่น brokers, เพื่อน, เซียน ท่านจะทราบได้อย่างไรว่าเขาเหล่านั้นเป็น Guru จริงๆ จริงอยู่อาจจะมีข้อยกเว้นอยู่บ้าง ข้อแนะนำในการรับความช่วยเหลือจากคนเหล่านั้นขอให้จำกัดเพียงแค่การอำนวย ความสะดวกหรือข้อมูลข่าวสารของสิ่งที่ท่าน trade อยู่

2. เมื่อผิด อย่าโทษคนอื่น ขอให้โทษตัวเองไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาอย่างไร วินัยข้อนี้จำเป็น เพราะหากเราไม่ฝึกฝนให้รับผิดชอบต่อสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น ขบวนการตัดสินใจจะไม่ยึดผลประโยชน์ของเราเป็นที่ตั้งได้

3. เน้นระยะยาว อย่าปรับวิธีการ trade โดยพิจารณาเพียงผลการ trade ระยะสั้น เพียงอย่างเดียว ทุกอย่างจะมีวันที่ดีและวันที่ไม่ดี ผลการ trade ในระยะสั้นอาจจะดูดี แต่ตามสถิติแล้ว มันมีปัจจัยทางด้านโชคมาเกี่ยวข้องมากกว่าระยะยาว ตัวอย่างมีให้เห็นมากมาย การเข้า/ออกในหุ้น หรืออัตราแลกเปลี่ยน แบบบ่อยๆ ส่วนใหญ่จะลงเอยด้วยการขาดทุนหรือไม่ก็ได้กำไรไม่พอค่าใช้จ่าย อาทิเช่น Brokerage Fee หรือ bid/offer spread

4. อย่าประเมินความยากของการเอาชนะความรู้สึกแย่ๆ ต่ำเกินไป แผนการเก็งกำไรที่ประสบความสำเร็จเมื่อสัปดาห์ก่อนอาจจะเป็นแผนที่แย่มากใน สัปดาห์นี้ก็ได้ ซึ่งเราต้องเอาชนะความรู้สึกแย่ๆ เช่นนั้นให้ได้ และมุ่งมั่นต่อไป เคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า “นักรบย่อมมีบาดแผล” มั้ยครับ ตราบใดที่ยังเป็น trader อยู่ ขอให้มองการขาดทุนเป็นเรื่องปกติและเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต (a part of the game) ไม่มีใครเอาชนะตลาดได้หรอกครับ แต่เราสามารถเป็นส่วนหนึ่งของตลาดในส่วนที่สำเร็จได้

5. อย่าคึกมากเมื่ออยู่ขาขึ้น คนที่ได้เงินจากการเก็งกำไรมากๆ ติดต่อกัน จะรู้สึก “คึก” เป็นพิเศษ อยากจะเพิ่มขนาดของการเก็งกำไรให้มากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดมาก ช่วงจังหวะที่ควรเพิ่มขนาดการ trade น่าจะอยู่หลังจากที่เราเสียอย่างต่อเนื่องมากกว่า

6. อย่าเหี่ยวลงเมื่ออยู่ขาลง ข้อนี้ตรงข้ามกับข้อ 5 ข้างบน มีคนเคยกล่าวไว้ว่า การเก็งกำไรเหมือนกับการเล่นกอล์ฟ นักกอล์ฟทุกคนไม่ว่าจะตีเก่งหรือไม่เก่ง ต้องมีช่วงตีที่ดีและไม่ดี เมื่อตีดีก็ดีใจว่าได้ “วง” ที่วิเศษหาอยู่นานมาไว้กับตัว เมื่อตีแย่ก็จะรู้สึกว่าจะต้องออกจากช่วงนี้ได้อย่างไร

trader ก็เหมือนกัน ตอนได้ตังค์ก็ฮึกเหิมว่าเราเก่ง ทำเงินได้มากและอยาก trade มากขึ้น ตอนขาดทุนก็อยากจะเลิก trade ไปเลย สิ่งที่อยากจะแนะนำก็คือให้ยึดมั่นทางสายกลาง ความพอดี ดูเหมือนพูดง่ายแต่ทำยาก แต่เมื่อลองทำดู ถึงแม้ว่า control ไม่ได้ทั้งหมด จะพบว่าเราสามารถจะทำให้ trading นั้นมีความยั่งยืน (sustainable) ได้โดยไม่จำเป็นต้องเป็นสองขั้ว แบบสุดๆ เสมอไป

ขอให้จดจำไว้และฝึกปฏิบัติจะเห็นผลในทางที่ดี อีกนิดหนึ่งแถมท้าย trader ที่ดี นอกจาก 6 ข้อข้างบนแล้ว จะต้องเข้าใจตัวเองอย่างถ่องแท้, สมดุล และควบคุมสภาวะจิตใจของตัวเองให้ได้ (อีกแล้ว!พูดเรื่องที่พูดง่ายแต่ทำยาก) ไม่ว่าคุณจะ trade อะไร ทองคำ, น้ำมัน, FX, ดอกเบี้ย คุณจะประสบความสำเร็จครับ ขอให้โชคดี

โดย.เสถียร ตันธนะสฤษดิ์

Currency Trader: Don Schellenberg #1