ที่ดิน สวยมาก 14 ไร่ 49 ตารางวา
สระน้ำ กว้าง 2.5 ไร่ ลึก 12-15 เมตร เหมาะที่อยู่อาศัย บ้านสวน
สภาพที่ดิน อุดมสมบรูณ์ เหมาะปลูกพืชทุกชนิด ล้มลุก และไม้ยืนต้น
ทางเข้าที่ดิน 14 - 0 - 94 ไร่ ห่างจากถนนลาดยาง เพียง 150 ม.
สนใจ ติดต่อ 085-0240417
etrader (Electronic Trading System)
Investment Opportunity: Before you can invest for the future, you need to have money put aside for the present. Don't be forced to liquidate some investments when an emergency arises. Build an emergency fund of three to six months' living expenses, and you'll be giving your online investments the best possible chance to grow. ลงทุนรูปแบบใหม่ในตลาด Forex ที่ www.fxtradingworldwide.com
วันอังคารที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2554
วันพฤหัสบดีที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2553
ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วงเทียบเยน จากกระแสคาดรัฐบาลญี่ปุ่นไม่แทรกแซงเงินเยน
ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 19 สิงหาคม 2553 07:51:17 น.
ค่าเงิน ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 ส.ค.) เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าทางการญี่ปุ่นจะไม่เข้าแทรกแซงตลาดเพื่อสกัด กั้นการแข็งค่าของเงินเยน ขณะที่ค่าเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากนักลงทุนเทขายหลังจากยูโรไม่สามารถไต่ขึ้นเหนือแนวต้านทางจิตวิทยา ได้
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.13% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 85.420 เยน จากระดับของวันอังคาร (17 ส.ค.) ที่ 85.530 เยน และอ่อนลง 0.08% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0419 ฟรังค์ จากระดับ 1.0427 ฟรังค์
ค่าเงินยูโรดิ่งลง 0.16% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2858 ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.2879 ดอลลาร์ และเงินปอนด์ดีดขึ้น 0.07% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ที่ระดับ 1.5598 ดอลลาร์ จากระดับ 1.5587 ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.78% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8978 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 0.9049 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.25% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7138 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7120 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับเงินเยน เนื่องจากนักลงทุนคาดว่า ทางการญี่ปุ่นจะไม่เข้าแทรกแซงตลาดเพื่อสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินเยน อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ในแวดวงตลาดปริวรรตเงินตราของญี่ปุ่นคาดว่า นายนาโอโตะ คัง รมว.คลังญี่ปุ่น และนายมาซาอากิ ชิรากาวะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) อาจประชุมร่วมกันในสัปดาห์หน้า เพื่อหาทางสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินเยน หลังจากเงินเยนพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 ปีในสัปดาห์ที่แล้ว
ส่วนค่าเงินยูโรร่วงลงเนื่องจากนักลงทุนเทขายหลังจากยูโรไม่สามารถไต่ ขึ้นเหนือแนวต้านทางจิตวิทยาได้ โดยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ค่าเงินยูโรได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่ารัฐบาลสเปนประสบความสำเร็จในการประมูล ขายพันธบัตรอายุ 12 เดือน มูลค่า 4.34 พันล้านยูโร ด้วยอัตราผลตอบแทน 1.86% และยอดสั่งจองพันธบัตรมีจำนวนสูงกว่าพันธบัตรที่นำออกจำหน่ายถึง 2.47 เท่า รวมทั้งข่าวที่ว่า รัฐบาลไอร์แลนด์ได้นำพันธบัตรออกจำหน่ายมูลค่า 1.5 พันล้านยูโร ซึ่งพันธบัตรชุดนี้จะครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2557 และ 2563
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐมูลค่า 2.551 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการเข้าซื้อครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนต.ค.2552 และมีเป้าหมายที่จะป้องกันไม่ให้เม็ดเงินไหลออกจากระบบการเงินของสหรัฐ โดยเฟดดำเนินการอย่างสอดคล้องกับที่ได้ให้คำมั่นสัญญาไว้ในที่ประชุมเมื่อ วันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมาว่าจะนำรายได้จากตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยรองรับ (MBS) ไปซื้อพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาล ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวถือเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งสำคัญ จากเดิมที่คณะกรรมการเฟดวางแผนที่จะใช้ยุทธศาสตร์ถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แบบค่อยเป็นค่อยไป
นักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค กล่าวว่า เฟดพยายามรักษาระดับเงินทุนในพอร์ทฟอลิโอของเฟด หรือ System Open Market Account (SOMA) ให้อยู่ที่ระดับ 2.054 ล้านล้านดอลลาร์ ควบคู่ไปกับการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว และคาดว่าเฟดอาจจะเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลอีก 2.84 แสนล้านดอลลาร์ในปีหน้า หรือมากกว่าที่จีนและญี่ปุ่นเข้าซื้อพันธบัตรสหรัฐรวมกันในช่วงเวลาที่สิ้น สุด ณ เดือนพ.ค.ปีนี้
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนก.ค. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพฤหัสบดี
ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรพุ่งเทียบดอลล์ ขานรับข่าวประมูลพันธบัตรสเปน-ไอร์แลนด์
ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 18 สิงหาคม 2553 07:42:14 น.
ค่าเงินยูโร ดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (17 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป หลังจากมีรายงานว่ารัฐบาลสเปนและไอร์แลนด์ประสบความสำเร็จในการประมูล พันธบัตร ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนและสกุลเงินอื่นๆ หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค.
ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.42% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2877 ดอลลาร์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.2823 ดอลลาร์ ส่วนเงินปอนด์ร่วงลง 0.57% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5572 ดอลลาร์ จากระดับ 1.5662 ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้น 0.19% เมื่อเทียบกับเงินเยนระดับ 85.520 เยน จากระดับของวันจันทร์ที่ 85.360 เยน และดีดตัวขึ้น 0.42% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 1.0434 ฟรังค์ จากระดับ 1.0390 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.78% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9050 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 0.8980 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.65% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7121 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7075 ดอลลาร์สหรัฐ
นักลงทุนเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป หลังจากมีรายงานว่ารัฐบาลไอร์แลนด์และสเปนประสบความสำเร็จในการประมูล พันธบัตร
อย่างไรก็ตาม ค่าเงินยูโรถูกกดดันในระหว่างวัน หลังจากสถาบันวิจัยเศรษฐกิจยุโรป (ZEW) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนเยอรมนีประจำเดือนส.ค. ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 16 เดือน เนื่องจากความกังวลที่ว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกอาจจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเยอรมนี ที่ต้องพึ่งพาการส่งเป็นหลัก
ค่าเงินดอลลาร์ดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนและสกุลเงินอื่นๆ หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐ รวมถึงผลผลิตในโรงงาน เหมืองแร่ และผลผลิตด้านสาธารณูปโภค ขยายตัวขึ้น 1.0% ในเดือนก.ค. ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าภาคการผลิตยังคงเป็นปัจจัยหลักในการหนุนเศรษฐกิจสหรัฐ ให้ฟื้นตัวขึ้น
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการสร้างบ้านใหม่เดือนก.ค.ขยายตัวขึ้น 1.7% สู่ระดับ 546,000 ยูนิตต่อปี โดยตัวเลขการสร้างบ้านในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ ขยายตัวขึ้น 30.5% ขณะที่เขตมิดเวสต์ขยายตัวขึ้น 10.7% นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (พีพีไอ) เดือนก.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 0.2% ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้
สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นดัชนีหลักที่ใช้วัดภาวะเงินเฟ้อ ปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน มาอยู่ที่ 3.1% ในเดือนก.ค. จากระดับ 3.2% ในเดือนมิ.ย. แต่ยังสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อเป้าหมายที่ระดับ 2% ของธนาคารกลางอังกฤษ
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนก.ค.
ค่าเงิน ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 ส.ค.) เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าทางการญี่ปุ่นจะไม่เข้าแทรกแซงตลาดเพื่อสกัด กั้นการแข็งค่าของเงินเยน ขณะที่ค่าเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากนักลงทุนเทขายหลังจากยูโรไม่สามารถไต่ขึ้นเหนือแนวต้านทางจิตวิทยา ได้
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.13% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 85.420 เยน จากระดับของวันอังคาร (17 ส.ค.) ที่ 85.530 เยน และอ่อนลง 0.08% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0419 ฟรังค์ จากระดับ 1.0427 ฟรังค์
ค่าเงินยูโรดิ่งลง 0.16% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2858 ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.2879 ดอลลาร์ และเงินปอนด์ดีดขึ้น 0.07% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ที่ระดับ 1.5598 ดอลลาร์ จากระดับ 1.5587 ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.78% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8978 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 0.9049 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.25% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7138 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7120 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับเงินเยน เนื่องจากนักลงทุนคาดว่า ทางการญี่ปุ่นจะไม่เข้าแทรกแซงตลาดเพื่อสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินเยน อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ในแวดวงตลาดปริวรรตเงินตราของญี่ปุ่นคาดว่า นายนาโอโตะ คัง รมว.คลังญี่ปุ่น และนายมาซาอากิ ชิรากาวะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) อาจประชุมร่วมกันในสัปดาห์หน้า เพื่อหาทางสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินเยน หลังจากเงินเยนพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 ปีในสัปดาห์ที่แล้ว
ส่วนค่าเงินยูโรร่วงลงเนื่องจากนักลงทุนเทขายหลังจากยูโรไม่สามารถไต่ ขึ้นเหนือแนวต้านทางจิตวิทยาได้ โดยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ค่าเงินยูโรได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่ารัฐบาลสเปนประสบความสำเร็จในการประมูล ขายพันธบัตรอายุ 12 เดือน มูลค่า 4.34 พันล้านยูโร ด้วยอัตราผลตอบแทน 1.86% และยอดสั่งจองพันธบัตรมีจำนวนสูงกว่าพันธบัตรที่นำออกจำหน่ายถึง 2.47 เท่า รวมทั้งข่าวที่ว่า รัฐบาลไอร์แลนด์ได้นำพันธบัตรออกจำหน่ายมูลค่า 1.5 พันล้านยูโร ซึ่งพันธบัตรชุดนี้จะครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2557 และ 2563
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐมูลค่า 2.551 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการเข้าซื้อครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนต.ค.2552 และมีเป้าหมายที่จะป้องกันไม่ให้เม็ดเงินไหลออกจากระบบการเงินของสหรัฐ โดยเฟดดำเนินการอย่างสอดคล้องกับที่ได้ให้คำมั่นสัญญาไว้ในที่ประชุมเมื่อ วันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมาว่าจะนำรายได้จากตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยรองรับ (MBS) ไปซื้อพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาล ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวถือเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งสำคัญ จากเดิมที่คณะกรรมการเฟดวางแผนที่จะใช้ยุทธศาสตร์ถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แบบค่อยเป็นค่อยไป
นักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค กล่าวว่า เฟดพยายามรักษาระดับเงินทุนในพอร์ทฟอลิโอของเฟด หรือ System Open Market Account (SOMA) ให้อยู่ที่ระดับ 2.054 ล้านล้านดอลลาร์ ควบคู่ไปกับการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว และคาดว่าเฟดอาจจะเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลอีก 2.84 แสนล้านดอลลาร์ในปีหน้า หรือมากกว่าที่จีนและญี่ปุ่นเข้าซื้อพันธบัตรสหรัฐรวมกันในช่วงเวลาที่สิ้น สุด ณ เดือนพ.ค.ปีนี้
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนก.ค. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพฤหัสบดี
ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรพุ่งเทียบดอลล์ ขานรับข่าวประมูลพันธบัตรสเปน-ไอร์แลนด์
ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 18 สิงหาคม 2553 07:42:14 น.
ค่าเงินยูโร ดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (17 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป หลังจากมีรายงานว่ารัฐบาลสเปนและไอร์แลนด์ประสบความสำเร็จในการประมูล พันธบัตร ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนและสกุลเงินอื่นๆ หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค.
ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.42% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2877 ดอลลาร์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.2823 ดอลลาร์ ส่วนเงินปอนด์ร่วงลง 0.57% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5572 ดอลลาร์ จากระดับ 1.5662 ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้น 0.19% เมื่อเทียบกับเงินเยนระดับ 85.520 เยน จากระดับของวันจันทร์ที่ 85.360 เยน และดีดตัวขึ้น 0.42% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 1.0434 ฟรังค์ จากระดับ 1.0390 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.78% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9050 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 0.8980 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.65% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7121 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7075 ดอลลาร์สหรัฐ
นักลงทุนเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป หลังจากมีรายงานว่ารัฐบาลไอร์แลนด์และสเปนประสบความสำเร็จในการประมูล พันธบัตร
อย่างไรก็ตาม ค่าเงินยูโรถูกกดดันในระหว่างวัน หลังจากสถาบันวิจัยเศรษฐกิจยุโรป (ZEW) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนเยอรมนีประจำเดือนส.ค. ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 16 เดือน เนื่องจากความกังวลที่ว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกอาจจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเยอรมนี ที่ต้องพึ่งพาการส่งเป็นหลัก
ค่าเงินดอลลาร์ดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนและสกุลเงินอื่นๆ หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐ รวมถึงผลผลิตในโรงงาน เหมืองแร่ และผลผลิตด้านสาธารณูปโภค ขยายตัวขึ้น 1.0% ในเดือนก.ค. ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าภาคการผลิตยังคงเป็นปัจจัยหลักในการหนุนเศรษฐกิจสหรัฐ ให้ฟื้นตัวขึ้น
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการสร้างบ้านใหม่เดือนก.ค.ขยายตัวขึ้น 1.7% สู่ระดับ 546,000 ยูนิตต่อปี โดยตัวเลขการสร้างบ้านในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ ขยายตัวขึ้น 30.5% ขณะที่เขตมิดเวสต์ขยายตัวขึ้น 10.7% นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (พีพีไอ) เดือนก.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 0.2% ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้
สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นดัชนีหลักที่ใช้วัดภาวะเงินเฟ้อ ปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน มาอยู่ที่ 3.1% ในเดือนก.ค. จากระดับ 3.2% ในเดือนมิ.ย. แต่ยังสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อเป้าหมายที่ระดับ 2% ของธนาคารกลางอังกฤษ
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนก.ค.
วันจันทร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2553
ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์สหรัฐแข็งค่า หลังยอดค้าปลีกเพิ่มน้อยกว่าคาด
ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์สหรัฐแข็งค่า หลังยอดค้าปลีกเพิ่มน้อยกว่าคาด
ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 14 สิงหาคม 2553 09:49:08 น.
เงินดอลลาร์ สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 ส.ค.) เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจกำลังสะดุด ได้ช่วยกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าถือครองสกุลเงินดอลลาร์ที่มีความเสี่ยงน้อย กว่า
เงินยูโรอ่อนค่าลง 0.55% แตะ 1.2753 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.2823 ดอลลาร์ และอ่อนค่าลง 0.13% แตะ 110.05 เยน จากระดับ 110.19 เยน ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.11% แตะที่ 1.5584 ดอลลาร์ จากระดับ 1.5567 ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า 0.43% แตะ 86.300 เยน จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 85.930 เยน และเพิ่มขึ้น 0.19% แตะ 1.0522 ฟรังค์สวิส จากระดับ 1.0502 ฟรังค์สวิส แต่ลดลง 0.15% แตะ 1.0405 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.0421 ในวันก่อน
ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่า 0.41% แตะที่ 0.8922 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 0.8959 ดอลลาร์สหรัฐ และเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนค่าลง 0.48% แตะที่ 0.7052 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7086 เมื่อวันก่อน
เมื่อวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.ค. ปรับตัวขึ้น 0.4% หลังจากลดลงสองเดือนติดต่อกัน แต่ยังน้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ว่าจะดีดตัวขึ้น 0.5% ซึ่งการปรับตัวขึ้นของยอดค้าปลีกเมื่อเดือนที่แล้วนั้น เป็นผลมาจากยอดขายยานยนต์และน้ำมันที่สูงขึ้น ขณะที่ยอดขายสินค้าอื่นๆเกือบทุกประเภท ตั้งแต่เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม ไปจนถึงวัสดุก่อสร้าง ยังซบเซา
ขณะที่ รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือน ส.ค.เพิ่มขึ้นแตะ 69.6 จากระดับ 67.8 ในเดือนก.ค. ซึ่งมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 68.8 แต่ก็ยังต่ำกว่าตัวเลข 76.0 ในเดือนมิ.ย.
นักวิเคราะห์มองว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่ปรับตัวขึ้นนั้น ยังไม่มากพอที่จะช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นของนักลงทุน
ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 14 สิงหาคม 2553 09:49:08 น.
เงินดอลลาร์ สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 ส.ค.) เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจกำลังสะดุด ได้ช่วยกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าถือครองสกุลเงินดอลลาร์ที่มีความเสี่ยงน้อย กว่า
เงินยูโรอ่อนค่าลง 0.55% แตะ 1.2753 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.2823 ดอลลาร์ และอ่อนค่าลง 0.13% แตะ 110.05 เยน จากระดับ 110.19 เยน ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.11% แตะที่ 1.5584 ดอลลาร์ จากระดับ 1.5567 ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า 0.43% แตะ 86.300 เยน จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 85.930 เยน และเพิ่มขึ้น 0.19% แตะ 1.0522 ฟรังค์สวิส จากระดับ 1.0502 ฟรังค์สวิส แต่ลดลง 0.15% แตะ 1.0405 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.0421 ในวันก่อน
ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่า 0.41% แตะที่ 0.8922 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 0.8959 ดอลลาร์สหรัฐ และเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนค่าลง 0.48% แตะที่ 0.7052 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7086 เมื่อวันก่อน
เมื่อวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.ค. ปรับตัวขึ้น 0.4% หลังจากลดลงสองเดือนติดต่อกัน แต่ยังน้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ว่าจะดีดตัวขึ้น 0.5% ซึ่งการปรับตัวขึ้นของยอดค้าปลีกเมื่อเดือนที่แล้วนั้น เป็นผลมาจากยอดขายยานยนต์และน้ำมันที่สูงขึ้น ขณะที่ยอดขายสินค้าอื่นๆเกือบทุกประเภท ตั้งแต่เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม ไปจนถึงวัสดุก่อสร้าง ยังซบเซา
ขณะที่ รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือน ส.ค.เพิ่มขึ้นแตะ 69.6 จากระดับ 67.8 ในเดือนก.ค. ซึ่งมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 68.8 แต่ก็ยังต่ำกว่าตัวเลข 76.0 ในเดือนมิ.ย.
นักวิเคราะห์มองว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่ปรับตัวขึ้นนั้น ยังไม่มากพอที่จะช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นของนักลงทุน
วันพฤหัสบดีที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2553
วิดิโอสอนการใช้ MetaTrader 4
วิดิโอสอนการใช้ MetaTrader 4
Present By ForexStrategySecrets
Part 1: Overview
Part 2: Changing Colors
Part 3: Opening a Demo Account
Part 4: Tips and Trick 1
Part 5: Tips and Trick 2
Part 6: Trailing Stop
Part 7: Templates
Part 8: Open and Close Trades
Part 9: Alerts
Part 10: Market Watch
Part 11: Navigator
Part 12: Terminal
Part 13: Indicator
สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จาก YouTube อีกเพียบครับ คลิกที่นี่
Present By ForexStrategySecrets
Part 1: Overview
Part 2: Changing Colors
Part 3: Opening a Demo Account
Part 4: Tips and Trick 1
Part 5: Tips and Trick 2
Part 6: Trailing Stop
Part 7: Templates
Part 8: Open and Close Trades
Part 9: Alerts
Part 10: Market Watch
Part 11: Navigator
Part 12: Terminal
Part 13: Indicator
สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จาก YouTube อีกเพียบครับ คลิกที่นี่
วันจันทร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2553
Fxpro สุดยอดโบรกเกอร์ร้อนแรงมากที่สุด NOW...!
FxPro: a leading and award-winning online forex broker
* Best Global Trading Platform 2010 by World Finance Magazine
* Fastest Growing Global Forex Broker 2010 by World Finance Magazine
* Best Forex Broker, Europe 2009 by World Finance Magazine
* Best Forex Broker 2009 by European CEO Magazine
AvaFx สุดยอดความคุ้มค่า ลงทุน $100 แถมฟรี $50
ดูรายละเอียด คลิกที่นี่
วันเสาร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก 30 ก.ค.: ดอลล์ร่วงหลังจีดีพีสหรัฐโตน้อยกว่าคาด-IMF เตือนศก.สหรัฐเปราะบาง
ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก 30 ก.ค.: ดอลล์ร่วงหลังจีดีพีสหรัฐโตน้อยกว่าคาด-IMF เตือนศก.สหรัฐเปราะบาง
ค่า เงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือนเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 ก.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่าเศรษฐกิจไตรมาส 2 ขยายตัวน้อยกว่าคาด และหลังจากผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์แสดงความกังวลว่า สหรัฐอาจเผชิญกับภาวะเงินฝืดแบบเดียวกับญี่ปุ่น นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังถูกกดดันหลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เตือนว่าระบบการเงินของสหรัฐอยู่ในภาวะที่เปราะบางมาก
ค่า เงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.39% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 86.420 เยน จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 86.760 เยน และอ่อนตัวลง 0.07% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 1.0403 ฟรังค์ จากระดับ 1.0410 ฟรังค์
ค่า เงินยูโรอ่อนตัวลง 0.19% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ 1.3052 ดอลลาร์ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.3077 ดอลลาร์ และค่าเงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.61% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ 1.5704 ดอลลาร์ จากระดับ 1.5609 ดอลลาร์
ค่า เงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.57% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ 0.9054 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 0.9003 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.32% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ 0.7259 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7236 ดอลลาร์สหรัฐ
นัก ลงทุนเทขายดอลลาร์สหรัฐหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ขยายตัวเพียง 2.4% ต่อปี ซึ่งชะลอตัวลงเมื่อทียบกับจีดีพีไตรมาสแรกที่ผ่านการทบครั้งใหม่ว่าขยายตัว 3.7% และน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยายตัวในอัตรา 2.5% ต่อปี
ดอลลาร์ สหรัฐผันผวนมากขึ้นเมื่อไอเอ็มเอฟเตือนว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังต้องเผชิญกับความ เสี่ยงที่จะชะลอตัวลง โดยเฉพาะความเสี่ยงที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะถดถอยรุนแรงและลุกลามไปยังภาค ส่วนอื่นๆ หากสถานการณ์การเงินในต่างประเทศเข้าขั้นวิกฤต
นอก จากนี้ผลการทดสอบภาวะวิกฤต (stress test) ของธนาคารสหรัฐ ซึ่งจัดทำโดยไอเอ็มเอฟยังบ่งชี้ว่า ระบบการเงินของสหรัฐยังอยู่ในภาวะเปราะบาง และธนาคารพาณิชย์ที่มีสถานะการเงินอ่อนแอจนส่งผลให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจนั้น จำเป็นต้องระดมเงินทุนเพิ่มถึง 7.6 หมื่นล้านดอลลาร์
นัก ลงทุนส่วนใหญ่ยังคงวิตกกังวลต่อการแสดงความคิดเห็นของนายเจมส์ บุลลาร์ด ผู้ว่าการเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ ที่ว่า สหรัฐอาจเผชิญกับภาวะเงินฝืดแบบเดียวกับญี่ปุ่นหากเศรษฐกิจอ่อนแอลง ซึ่งภาวะเงินฝืดจะลุกลามจนทำให้ราคาสินค้า มูลค่าที่อยู่อาศัย มูลค่าหุ้น และอัตราค่าแรงหดตัวลงด้วย ทั้งนี้ นายบุลลาร์ดแนะนำให้คณะกรรมการเฟดทบทวนโครงการซื้อพันธบัตรของรัฐบาลหาก เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญวิกฤตการณ์อันเนื่องมาจากภาวะเงินฝืด
มู ดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส กล่าวว่า สหรัฐจำเป็นต้องประกาศใช้มาตรการที่ชัดเจนในการลดยอดขาดดุลงบประมาณ และเตือนว่า ตัวเลขหนี้สาธารณะที่อยู่ในระดับสูงอาจส่งผลกระทบต่ออันดับความน่าเชื่อถือ ที่ Aaa ของสหรัฐในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
ค่า เงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือนเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 ก.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่าเศรษฐกิจไตรมาส 2 ขยายตัวน้อยกว่าคาด และหลังจากผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์แสดงความกังวลว่า สหรัฐอาจเผชิญกับภาวะเงินฝืดแบบเดียวกับญี่ปุ่น นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังถูกกดดันหลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เตือนว่าระบบการเงินของสหรัฐอยู่ในภาวะที่เปราะบางมาก
ค่า เงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.39% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 86.420 เยน จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 86.760 เยน และอ่อนตัวลง 0.07% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 1.0403 ฟรังค์ จากระดับ 1.0410 ฟรังค์
ค่า เงินยูโรอ่อนตัวลง 0.19% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ 1.3052 ดอลลาร์ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.3077 ดอลลาร์ และค่าเงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.61% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ 1.5704 ดอลลาร์ จากระดับ 1.5609 ดอลลาร์
ค่า เงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.57% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ 0.9054 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 0.9003 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.32% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ 0.7259 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7236 ดอลลาร์สหรัฐ
นัก ลงทุนเทขายดอลลาร์สหรัฐหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ขยายตัวเพียง 2.4% ต่อปี ซึ่งชะลอตัวลงเมื่อทียบกับจีดีพีไตรมาสแรกที่ผ่านการทบครั้งใหม่ว่าขยายตัว 3.7% และน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยายตัวในอัตรา 2.5% ต่อปี
ดอลลาร์ สหรัฐผันผวนมากขึ้นเมื่อไอเอ็มเอฟเตือนว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังต้องเผชิญกับความ เสี่ยงที่จะชะลอตัวลง โดยเฉพาะความเสี่ยงที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะถดถอยรุนแรงและลุกลามไปยังภาค ส่วนอื่นๆ หากสถานการณ์การเงินในต่างประเทศเข้าขั้นวิกฤต
นอก จากนี้ผลการทดสอบภาวะวิกฤต (stress test) ของธนาคารสหรัฐ ซึ่งจัดทำโดยไอเอ็มเอฟยังบ่งชี้ว่า ระบบการเงินของสหรัฐยังอยู่ในภาวะเปราะบาง และธนาคารพาณิชย์ที่มีสถานะการเงินอ่อนแอจนส่งผลให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจนั้น จำเป็นต้องระดมเงินทุนเพิ่มถึง 7.6 หมื่นล้านดอลลาร์
นัก ลงทุนส่วนใหญ่ยังคงวิตกกังวลต่อการแสดงความคิดเห็นของนายเจมส์ บุลลาร์ด ผู้ว่าการเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ ที่ว่า สหรัฐอาจเผชิญกับภาวะเงินฝืดแบบเดียวกับญี่ปุ่นหากเศรษฐกิจอ่อนแอลง ซึ่งภาวะเงินฝืดจะลุกลามจนทำให้ราคาสินค้า มูลค่าที่อยู่อาศัย มูลค่าหุ้น และอัตราค่าแรงหดตัวลงด้วย ทั้งนี้ นายบุลลาร์ดแนะนำให้คณะกรรมการเฟดทบทวนโครงการซื้อพันธบัตรของรัฐบาลหาก เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญวิกฤตการณ์อันเนื่องมาจากภาวะเงินฝืด
มู ดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส กล่าวว่า สหรัฐจำเป็นต้องประกาศใช้มาตรการที่ชัดเจนในการลดยอดขาดดุลงบประมาณ และเตือนว่า ตัวเลขหนี้สาธารณะที่อยู่ในระดับสูงอาจส่งผลกระทบต่ออันดับความน่าเชื่อถือ ที่ Aaa ของสหรัฐในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
วันศุกร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
Daily Video Recap for 28 Jul: Upbeat Euro-Zone, UK Data Countered By Weak US Reports
เป็น trader ยากมั้ย?
มีคำกล่าวแบบติดตลกของ นักแสดงตลกชาวอเมริกันคนหนึ่ง ผมจำชื่อไม่ได้แล้ว เขากล่าวว่า "I am not as concerned about the return on my money as I am about the return of my money" ซึ่งบ่งบอกให้เราทราบถึงธรรมชาติของมนุษย์ว่าส่วนใหญ่ไม่ชอบเสี่ยง (Most people are naturally risk averse) แต่ทว่าในใจก็ยังแอบอยากได้กำไรเยอะๆ จากการเก็งกำไร ไม่ว่าจะเป็นทองคำ, ที่ดิน,หุ้น, ผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆ แล้วก็ไปอิจฉาบรรดานักเก็งกำไรที่ได้กำไรเยอะๆ ซึ่งผมก็อยากจะบอกว่านักเก็งกำไรที่เขาประสบความสำเร็จได้เงินมากๆ เหล่านั้นก็เปรียบเสมือนเขาได้รับการ “ว่าจ้าง” มาให้รับความเสี่ยงต่างๆ จากผู้คนรอบข้างที่ไม่อยากเสี่ยงนี่แหละ ยังมี traders อีกมากมายที่ล้มเหลวและถอดใจหรือไม่ก็หายสาบสูญ (ทั้งโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ) แต่เราไม่เคยได้ยินเพียงเพราะว่าผู้คนโดยทั่วไปมักจะชอบเล่าลือถึงเรื่อง ความสำเร็จเท่านั้น
มีหลุมพรางทางจิตวิทยา 6 อย่างที่ trader จะต้องเอาชนะก้าวข้ามไปให้ได้ ผมจะขอว่าไปทีละอย่างเลยนะครับ
1. อย่าพึ่งพาคนอื่นมากจนเกินความจำเป็น ท่องคติไทยที่ว่าตนเป็นที่พึ่งแห่งตนให้ขึ้นใจ จะมีผู้คนมากมายทั้งปรารถนาดี/ไม่ดี มาให้ข้อคิด คำแนะนำอย่างมากต่อท่าน เช่น brokers, เพื่อน, เซียน ท่านจะทราบได้อย่างไรว่าเขาเหล่านั้นเป็น Guru จริงๆ จริงอยู่อาจจะมีข้อยกเว้นอยู่บ้าง ข้อแนะนำในการรับความช่วยเหลือจากคนเหล่านั้นขอให้จำกัดเพียงแค่การอำนวย ความสะดวกหรือข้อมูลข่าวสารของสิ่งที่ท่าน trade อยู่
2. เมื่อผิด อย่าโทษคนอื่น ขอให้โทษตัวเองไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาอย่างไร วินัยข้อนี้จำเป็น เพราะหากเราไม่ฝึกฝนให้รับผิดชอบต่อสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น ขบวนการตัดสินใจจะไม่ยึดผลประโยชน์ของเราเป็นที่ตั้งได้
3. เน้นระยะยาว อย่าปรับวิธีการ trade โดยพิจารณาเพียงผลการ trade ระยะสั้น เพียงอย่างเดียว ทุกอย่างจะมีวันที่ดีและวันที่ไม่ดี ผลการ trade ในระยะสั้นอาจจะดูดี แต่ตามสถิติแล้ว มันมีปัจจัยทางด้านโชคมาเกี่ยวข้องมากกว่าระยะยาว ตัวอย่างมีให้เห็นมากมาย การเข้า/ออกในหุ้น หรืออัตราแลกเปลี่ยน แบบบ่อยๆ ส่วนใหญ่จะลงเอยด้วยการขาดทุนหรือไม่ก็ได้กำไรไม่พอค่าใช้จ่าย อาทิเช่น Brokerage Fee หรือ bid/offer spread
4. อย่าประเมินความยากของการเอาชนะความรู้สึกแย่ๆ ต่ำเกินไป แผนการเก็งกำไรที่ประสบความสำเร็จเมื่อสัปดาห์ก่อนอาจจะเป็นแผนที่แย่มากใน สัปดาห์นี้ก็ได้ ซึ่งเราต้องเอาชนะความรู้สึกแย่ๆ เช่นนั้นให้ได้ และมุ่งมั่นต่อไป เคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า “นักรบย่อมมีบาดแผล” มั้ยครับ ตราบใดที่ยังเป็น trader อยู่ ขอให้มองการขาดทุนเป็นเรื่องปกติและเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต (a part of the game) ไม่มีใครเอาชนะตลาดได้หรอกครับ แต่เราสามารถเป็นส่วนหนึ่งของตลาดในส่วนที่สำเร็จได้
5. อย่าคึกมากเมื่ออยู่ขาขึ้น คนที่ได้เงินจากการเก็งกำไรมากๆ ติดต่อกัน จะรู้สึก “คึก” เป็นพิเศษ อยากจะเพิ่มขนาดของการเก็งกำไรให้มากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดมาก ช่วงจังหวะที่ควรเพิ่มขนาดการ trade น่าจะอยู่หลังจากที่เราเสียอย่างต่อเนื่องมากกว่า
6. อย่าเหี่ยวลงเมื่ออยู่ขาลง ข้อนี้ตรงข้ามกับข้อ 5 ข้างบน มีคนเคยกล่าวไว้ว่า การเก็งกำไรเหมือนกับการเล่นกอล์ฟ นักกอล์ฟทุกคนไม่ว่าจะตีเก่งหรือไม่เก่ง ต้องมีช่วงตีที่ดีและไม่ดี เมื่อตีดีก็ดีใจว่าได้ “วง” ที่วิเศษหาอยู่นานมาไว้กับตัว เมื่อตีแย่ก็จะรู้สึกว่าจะต้องออกจากช่วงนี้ได้อย่างไร
trader ก็เหมือนกัน ตอนได้ตังค์ก็ฮึกเหิมว่าเราเก่ง ทำเงินได้มากและอยาก trade มากขึ้น ตอนขาดทุนก็อยากจะเลิก trade ไปเลย สิ่งที่อยากจะแนะนำก็คือให้ยึดมั่นทางสายกลาง ความพอดี ดูเหมือนพูดง่ายแต่ทำยาก แต่เมื่อลองทำดู ถึงแม้ว่า control ไม่ได้ทั้งหมด จะพบว่าเราสามารถจะทำให้ trading นั้นมีความยั่งยืน (sustainable) ได้โดยไม่จำเป็นต้องเป็นสองขั้ว แบบสุดๆ เสมอไป
ขอให้จดจำไว้และฝึกปฏิบัติจะเห็นผลในทางที่ดี อีกนิดหนึ่งแถมท้าย trader ที่ดี นอกจาก 6 ข้อข้างบนแล้ว จะต้องเข้าใจตัวเองอย่างถ่องแท้, สมดุล และควบคุมสภาวะจิตใจของตัวเองให้ได้ (อีกแล้ว!พูดเรื่องที่พูดง่ายแต่ทำยาก) ไม่ว่าคุณจะ trade อะไร ทองคำ, น้ำมัน, FX, ดอกเบี้ย คุณจะประสบความสำเร็จครับ ขอให้โชคดี
โดย.เสถียร ตันธนะสฤษดิ์
Currency Trader: Don Schellenberg #1
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)