วันเสาร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก 30 ก.ค.: ดอลล์ร่วงหลังจีดีพีสหรัฐโตน้อยกว่าคาด-IMF เตือนศก.สหรัฐเปราะบาง

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก 30 ก.ค.: ดอลล์ร่วงหลังจีดีพีสหรัฐโตน้อยกว่าคาด-IMF เตือนศก.สหรัฐเปราะบาง
ค่า เงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือนเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 ก.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่าเศรษฐกิจไตรมาส 2 ขยายตัวน้อยกว่าคาด และหลังจากผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์แสดงความกังวลว่า สหรัฐอาจเผชิญกับภาวะเงินฝืดแบบเดียวกับญี่ปุ่น นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังถูกกดดันหลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เตือนว่าระบบการเงินของสหรัฐอยู่ในภาวะที่เปราะบางมาก

ค่า เงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.39% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 86.420 เยน จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 86.760 เยน และอ่อนตัวลง 0.07% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 1.0403 ฟรังค์ จากระดับ 1.0410 ฟรังค์

ค่า เงินยูโรอ่อนตัวลง 0.19% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ 1.3052 ดอลลาร์ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.3077 ดอลลาร์ และค่าเงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.61% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ 1.5704 ดอลลาร์ จากระดับ 1.5609 ดอลลาร์

ค่า เงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.57% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ 0.9054 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 0.9003 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.32% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ 0.7259 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7236 ดอลลาร์สหรัฐ

นัก ลงทุนเทขายดอลลาร์สหรัฐหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ขยายตัวเพียง 2.4% ต่อปี ซึ่งชะลอตัวลงเมื่อทียบกับจีดีพีไตรมาสแรกที่ผ่านการทบครั้งใหม่ว่าขยายตัว 3.7% และน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยายตัวในอัตรา 2.5% ต่อปี

ดอลลาร์ สหรัฐผันผวนมากขึ้นเมื่อไอเอ็มเอฟเตือนว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังต้องเผชิญกับความ เสี่ยงที่จะชะลอตัวลง โดยเฉพาะความเสี่ยงที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะถดถอยรุนแรงและลุกลามไปยังภาค ส่วนอื่นๆ หากสถานการณ์การเงินในต่างประเทศเข้าขั้นวิกฤต

นอก จากนี้ผลการทดสอบภาวะวิกฤต (stress test) ของธนาคารสหรัฐ ซึ่งจัดทำโดยไอเอ็มเอฟยังบ่งชี้ว่า ระบบการเงินของสหรัฐยังอยู่ในภาวะเปราะบาง และธนาคารพาณิชย์ที่มีสถานะการเงินอ่อนแอจนส่งผลให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจนั้น จำเป็นต้องระดมเงินทุนเพิ่มถึง 7.6 หมื่นล้านดอลลาร์

นัก ลงทุนส่วนใหญ่ยังคงวิตกกังวลต่อการแสดงความคิดเห็นของนายเจมส์ บุลลาร์ด ผู้ว่าการเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ ที่ว่า สหรัฐอาจเผชิญกับภาวะเงินฝืดแบบเดียวกับญี่ปุ่นหากเศรษฐกิจอ่อนแอลง ซึ่งภาวะเงินฝืดจะลุกลามจนทำให้ราคาสินค้า มูลค่าที่อยู่อาศัย มูลค่าหุ้น และอัตราค่าแรงหดตัวลงด้วย ทั้งนี้ นายบุลลาร์ดแนะนำให้คณะกรรมการเฟดทบทวนโครงการซื้อพันธบัตรของรัฐบาลหาก เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญวิกฤตการณ์อันเนื่องมาจากภาวะเงินฝืด

มู ดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส กล่าวว่า สหรัฐจำเป็นต้องประกาศใช้มาตรการที่ชัดเจนในการลดยอดขาดดุลงบประมาณ และเตือนว่า ตัวเลขหนี้สาธารณะที่อยู่ในระดับสูงอาจส่งผลกระทบต่ออันดับความน่าเชื่อถือ ที่ Aaa ของสหรัฐในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น